El Cosmico โรงแรมแห่งแรกของโลก ที่สร้างโดยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ เตรียมเปิดให้บริการที่มาร์ฟา เมืองในทะเลทรายทางตะวันตกของรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยไอคอน (ICON) บริษัทการพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) จะเปลี่ยนอนาคตของการพักผ่อนบนโลก ก่อนที่จะสร้างบ้านบนดวงจันทร์และดาวอังคารในอนาคต
โดย Liz Lambert ผู้ก่อตั้ง El Cosmico แบรนด์โรงแรมสไตล์โบฮีเมียนที่ถือกำเนิดมาจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยนี้ ร่วมมือกับไอคอน และบิ๊ก หรือ Bjarke Ingels Group (BIG) เพื่อนำเสนอที่พักหรูหราที่สร้างขึ้นจากการพิมพ์ 3 มิติ พร้อมสระว่ายน้ำไร้ขอบขนาดใหญ่ และเต็นท์ซาฟารีกลางทะเลทราย
พื้นที่ตั้งแคมป์ขนาด 21 เอเคอร์ (53.13 ไร่) ในปัจจุบันเป็นที่ตั้งของเต็นท์ กระโจม และรถพ่วง แต่ในอนาคตอันใกล้ โรงแรมที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิประเทศแบบทะเลทราย จะปักหลักแทน พร้อมขยายพื้นที่ออกไปถึง 60 เอเคอร์ (154.33 ไร่) ซึ่งนอกจากโรงแรมแล้วยังรองรับ Sunday Homes บ้านพิมพ์ 3 มิติ ขนาด 2, 3 และ 4 ห้องนอน มีพื้นที่ตั้งแต่ 111.5-205 ตารางเมตร
ก่อนที่จะเป็น El Cosmico เราศึกษาแนวคิดและองค์ประกอบต่างๆ เป็นเวลาหลายปี เพื่อเพิ่มประสบการณ์ทั้งสำหรับแขกและคนในพื้นที่ เช่น สระว่ายน้ำ สปาฮัมมัม (ต้นตำรับการปรนนิบัติผิวแบบอาหรับโบราณ) รวมถึงพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับงานศิลปะและเวิร์กช็อปเสริมสร้างทักษะสำหรับชุมชน” Liz Lambert กล่าว
“ในการร่วมมือกับบิ๊กและไอคอน ไม่เพียงแต่เราจะได้เติมเต็มความฝันนี้ให้เป็นจริงเท่านั้น แต่เราได้ทำมันโดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติอันน่าทึ่งนี้ ซึ่งผสมผสานหลักการที่เก่าแก่ที่สุดของการสร้างจากดินดิบ (สารประกอบของดินเหนียวและแร่ธาตุธรรมชาติอื่น ๆ ทิ้งไว้ให้แห้งโดยที่ไม่ต้องเผา) ด้วยเทคโนโลยีแห่ง
อนาคตที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพมากกว่าการก่อสร้างสมัยใหม่”
เธอกล่าวต่ออีกว่า “ยิ่งไปกว่านั้น นวัตกรรมและความสวยงามของโครงสร้างประเภทต่างๆ ที่เราสามารถสร้างได้นั้นมีมากกว่าแค่กล่อง เหมาะสมแล้วที่ไอคอนเป็นพันธมิตรกับนาซา เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยแห่งแรกบนดวงจันทร์และบนดาวอังคาร”
ด้าน Bjarke Ingels ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของบิ๊กกล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างเรากับ El Cosmico และไอคอน ทำให้เราสามารถก่อสร้างโรงแรมด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติที่ล้ำสมัย โดยปราศจากข้อจำกัดดั้งเดิม ที่สำคัญยังสร้างขึ้นจากวัสดุออร์แกนิกทั้งหมดอีกด้วย”
โรงแรมที่สร้างสรรค์จากเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติแห่งแรกของโลก จะเปิดรับจองตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2566 เพื่อให้ผู้เข้าพักจะเพลิดเพลินไปกับสภาพแวดล้อมที่ได้รับการจัดวางแปลกใหม่ ไม่ธรรมดา และทิวทัศน์อันงดงามของเทือกเขาเดวิส
สำหรับไอคอน ที่มีบทบาทสำคัญในโครงการนี้ คว้าสัญญามูลค่ามูลค่า 57 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากนาซา ในการพัฒนาเทคโนโลยีการก่อสร้างด้วยการพิมพ์ 3 มิติ เพื่อสร้างองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตบนดวงจันทร์ เช่น สร้างถนน ฐานยิงจรวด และที่อยู่อาศัยบนพื้นผิวดวงจันทร์ โดยไอคอนมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเครื่องพิมพ์ 3 มิติขนาดใหญ่ ที่สามารถขนส่งไปยังดวงจันทร์ได้ และจะใช้วัสดุจากดวงจันทร์เพื่อสร้างฐานยิงจรวดและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ บนดวงจันทร์
นอกจากนี้ ไอคอนยังร่วมมือกับนาซาและบิ๊กในโครงการ Mars Dune Alpha ซึ่งเป็นโครงสร้างการพิมพ์ 3 มิติที่ออกแบบมาเพื่อจำลองการใช้ชีวิตบนดาวอังคาร
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Research and Markets วิเคราะห์ตลาดการพิมพ์ 3 มิติทั่วโลกว่าจะมีมูลค่า 77.228 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2573 โดยหมวดหมู่เครื่องพิมพ์ 3 มิติ มีส่วนแบ่งมากที่สุดกว่า 40% เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงการยอมรับจากหน่วยงานขนาดใหญ่หลายแห่ง เครื่องพิมพ์ 3 มิติ อุตสาหกรรมเป็นที่ต้องการอย่างมาก เนื่องจากความสามารถในการผลิตรูปทรงเรขาคณิตที่ซับซ้อนในขั้นตอนเดียว ส่งผลให้มีประสิทธิภาพขั้นสูงและราคาการผลิตที่ลดลง
ขณะที่การบริการที่เกี่ยวข้องจะมีอัตราการเติบโตสูงสุดในอีกหลายปีข้างหน้า เนื่องจากความจำเป็นในการบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป โดยในด้านบริการนั้น บริการหลังการขายเป็นที่ต้องการอย่างมาก จายอดขายเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนความต้องการด้านบริการหลังการขาย เช่น การบำรุงรักษาตามระยะและการเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆ
ที่มา: salika