ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังคึกคักจากกระแสลดโลกร้อน ค่ายรถยนต์ต่างพาเหรดเตรียมพร้อมเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าป้อนตลาดโลก และหนึ่งในทำเลยอดฮิตก็คือเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ที่ถูกจับจองทำเลเพื่อการนี้
ญี่ปุ่น ในฐานะนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ในไทย มีค่ายรถยนต์มาปักหลักลงทุนมากที่สุด ย่อมไม่พลาดที่จะวางแผนใช้พื้นที่อีอีซีลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าป้อนตลาดโลก หนึ่งนั้นคือ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ควักกระเป๋ากว่า 5,480 ล้านบาท ปรับปรุงสายการผลิตรถยนต์เดิมที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี สำหรับผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีกำลังการผลิตรวม 39,000 คันต่อปี แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicles – BEV) ประมาณ 9,500 คันต่อปี และรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม (Hybrid Electric Vehicles – HEV) ประมาณ 29,500 คันต่อปี โดยจะเริ่มผลิตประมาณปี 2566 และจะมีการส่งออกไปตลาดอาเซียนด้วย
ขณะที่ค่ายรถยนต์จากจีนแม้จะเป็นยักษ์ใหม่สำหรับวงการรถยนต์เมืองไทย แต่ถือเป็นยักษ์ใหญ่ระดับโลก อย่าง เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) หรือ GWM ผู้ผลิตรถเอสยูวีและรถกระบะระดับโลก และกำลังจะก้าวเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ (xEV) ก็ได้ประกาศเปิดโรงงานอัจฉริยะแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน อย่างเป็นทางการที่จังหวัดระยอง หนึ่งในสามจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่อีอีซี เพื่อผลิตและส่งมอบรถยนต์คุณภาพให้กับผู้บริโภคชาวไทย และเดินหน้ายกระดับประเทศไทยสู่ผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้ ตั้งเป้ากำลังการผลิตแบบเต็มกำลังของโรงงาน 80,000 คันต่อปี สัดส่วนของการผลิตและส่งออกอยู่ที่ 60:40 คือจำหน่ายภายในประเทศ 60% และส่งออก 40%
ด้านกลุ่มนักลงทุนไทยก็ไม่น้อยหน้า บริษัท อรุณ พลัส จำกัด หรือ ARUN PLUS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTT จับมือ บริษัท หลินยิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสเมนท์ จำกัด (Lin Yin International Investment) บริษัทในกลุ่มของ บริษัท หงไห่ พริซิชั่น อินดัสทรี จำกัด (Hon Hai Precision Industry) หรือ ฟ็อกซ์คอนน์ เทคโนโลยี กรุ๊ป (Foxconn Technology Group) จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด หรือ HORIZON PLUS ลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดย HORIZON PLUS ก่อตั้งโรงงานผลิต EV บนพื้นที่กว่า 350 ไร่ในพื้นที่อีอีซี มีกำหนดแล้วเสร็จและสามารถผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 4 ล้อ (รถยนต์นั่งส่วนบุคคล) ออกสู่ตลาดได้ภายในปี 2567 มีกำลังการผลิตที่ 50,000 คันต่อปี ในระยะแรก และจะขยายกำลังการผลิตไปถึง 150,000 คันต่อปี ภายในปี 2573 เพื่อให้สอดรับกับความต้องการใช้ EV ทั้งภายในประเทศและภูมิภาคอาเซียน
ที่มา: salika
