10เทคโนโลยีทำชีวิตให้ดี บทบาทของเทคโนโลยีที่จะช่วยในการใช้ชีวิตให้ดีขึ้น
ทคโนโลยีเพื่อทำให้การใช้ชีวิตนั้นสะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ทำให้เทคโนโลยีบางอย่างกลายมาเป็นที่นิยม และอาจจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันในอนาคต
1. การซื้อ-ขายออนไลน์ & หุ่นยนต์ส่งของ
การซื้อสินค้าออนไลน์ได้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส เช่น การสั่งอาหาร หรือการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะนอกจากจะสะดวก ทำให้เราสามารถซื้อสินค้าได้ทุกเวลาแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อออกไปนอกบ้านอีกด้วย นอกจากนี้ในบางประเทศได้มีการนำหุ่นยนต์เข้ามาประยุกต์ใช้ในการส่งของ เพื่อลดการสัมผัสระหว่างผู้คนด้วย
2. การชำระเงินแบบดิจิทัล และแบบไร้สัมผัส
หลายคนเริ่มเปิดใจ และหันมาชำระเงินแบบดิจิทัล หรือ Cashless กันมากขึ้น เพราะช่วยให้การใช้จ่ายสะดวกมากขึ้น และยังช่วยลดการสัมผัสระหว่างคน ไม่ว่าจะเป็น การซื้อของ หรือการชำระเงินค่าบริการต่าง ๆ ก็สามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องใช้เงินสด นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถจัดการบริหารเงินได้ดีขึ้น รวมถึงลดเวลาและขั้นตอนในการไปทำธุรกรรมที่ธนาคารอีกด้วย
3. การทำงานทางไกล
หลายบริษัทได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน เปลี่ยนมาทำงานระยะไกลโดยไม่ต้องเข้ามาที่สำนักงาน ซึ่งทำให้บริษัทต้องนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับองค์กรมากขึ้น เพราะต้องใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน เช่น โปรแกรมประชุมออนไลน์ การสื่อสารผ่านเสียง หรือระบบเก็บข้อมูลบนคลาวด์ แต่ก็ยังมีข้อเสียเกิดขึ้นจากการทำงานนอกสำนักงาน เช่น ความเหงาและความเครียดที่อาจเกิดขึ้น หรือปัญหาทางด้านการสื่อสาร เป็นต้น
4. การศึกษาทางไกล
การเรียนทางไกลหรือการเรียนออนไลน์ เกิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการเรียนการสอน ทำให้สามารถเรียนได้ทุกที่ เพราะบางสถานศึกษาไม่สามารถเปิดทำการได้ ซึ่งการเรียนออนไลน์ได้มีการประยุกต์เทคโนโลยีอื่น ๆ มาใช้ควบคู่ไปด้วย เพื่อช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและไม่น่าเบื่อ เช่น สื่อการเรียนการสอนแบบออนไลน์ โปรแกรมประชุมออนไลน์ที่สามารถรองรับคนได้จำนวนมาก VR และ AR เป็นต้น
5. บริการทางการแพทย์ผ่านอินเทอร์เน็ต (Telehealth)
เมื่อการไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจะไม่ใช่เรื่องยากและวุ่นวายอีกต่อไป เพราะด้วยเทคโนโลยีและความเร็วของอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ผู้ป่วยสามารถพบแพทย์ได้โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล และแพทย์สามารถวินิจฉัยได้ผ่านแพลตฟอร์มและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
6. ความบันเทิงออนไลน์
เพราะการกักตัวอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน ทำให้เกิดความบันเทิงรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัล อย่างความบันเทิงออนไลน์ เช่น การจัดคอนเสิร์ตออนไลน์ การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ ที่ถึงแม้ตัวจะอยู่ที่บ้านแต่คุณก็สามารถเดินทางไปเที่ยวรอบโลก หรือรับชมความบันเทิงได้แบบเต็มที่
7. Supply Chain 4.0
หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ห่วงโซ่อุปทานของหลายธุรกิจต้องหยุดชั่วคราว ส่งผลทำให้หลายบริษัทต้องเปลี่ยนจากการกักตุนสินค้าที่คลังใหญ่ไว้ที่เดียว ไปเป็นการกระจายสินค้าอยู่ที่คลังหลาย ๆ แห่งแทน รวมถึงได้นำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น เทคโนโลยี Blockchain, Internet-of-Things (IoT), หรือ Big Data เพื่อช่วยให้เกิดความแม่นยำและการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการแชร์ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ระหว่างคลังสินค้าแต่ละที่
8. เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing)
เพิ่มความหลากหลายให้กระบวนการการผลิตผ่านการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ เพราะเพียงแค่มีเครื่องพิมพ์เครื่องเดียว ก็สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ออกมาได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการ ตั้งแต่อุปกรณ์ทางการแพทย์ ไปจนถึงสื่อสำหรับการเรียนการสอน แถมที่สำคัญยังช่วยประหยัดเวลาในการผลิตอีกด้วย
9. เทคโนโลยีหุ่นยนต์ & โดรน
เมื่อเทคโนโลยีหุ่นยนต์และโดรนเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากกว่าที่คิด เพราะเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ในหลาย ๆ ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ธุรกิจค้าปลีก หรือธุรกิจขนส่ง ได้มีการใช้หุ่นยนต์และโดรนเพื่อขนส่งแทนการใช้คน และในอนาคตเราอาจจะได้เห็นตำแหน่งที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อหุ่นยนต์โดยเฉพาะ
10. 5G & เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)
ด้วยเทคโนโลยี 5G ที่กำลังเกิดขึ้น รวมไปถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ถูกพัฒนาขึ้น จะทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของเราสะดวกยิ่งขึ้น เพราะทุกอย่างจะสามารถเชื่อมต่อเข้าหากันผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งทำให้เราสามารถเรียกใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
credit: aisdc.ais.co.th