5เทคโนโลยีอุตสาหกรรม
1 :เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ขั้นสูง (Advanced Analytics)
การใช้เทคโนโลยี AI ของอุตสาหกรรมการผลิตจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในงานควบคุมคุณภาพ เนื่องจาก AI สามารถตรวจสอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงกระบวนการการผลิตและการประกอบชิ้นส่วนได้อย่างละเอียดและตรงตามคุณภาพที่ถูกกำหนดไว้ จากชิ้นส่วนที่ผลิตทั้งหมด จะมีชิ้นตัวอย่างที่จะถูกสุ่มเลือกมาใช้เพื่อหาข้อบกพร่องและการเปลี่ยนแปลงของสภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ ในขั้นตอนนี้เราอาจพบข้อบกพร่องที่ไม่มีใครสังเกตเห็นได้ เนื่องจากไม่ได้มีการตรวจสอบชิ้นส่วนที่ผลิตทั้งหมด ดังนั้นการใช้เทคโนโลยี AI จะช่วยให้การตรวจสอบชิ้นส่วนที่ผลิตทั้งหมด (หรือส่วนใหญ่) ในอัตราการตรวจสอบที่สูงมาก ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างมาก และลดโอกาสการเกิดข้อบกพร่อง โดยการตรวจสอบคุณภาพของชิ้นส่วนและการตรวจสอบสภาพของเครื่องจักร กระบวนการ และระบบสามารถทำได้โดยอัตโนมัติ นั่นทำให้ระบบควบคุมคุณภาพการผลิตแบบอัจฉริยะเป็นส่วนสำคัญของการผลิตแห่งอนาคต ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดจริงในวันนี้และวันหน้า
2 :ระบบอัตโนมัติที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม
บางบริษัท ไม่ได้มองว่าระบบอัตโนมัตินั้นเป็นทางเลือกในการผลิตสินค้า เนื่องจากมีงบประมาณไม่เพียงพอในการลงทุนที่จะนำโซลูชันที่จำเป็นมาปรับใช้งาน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทำให้ต้นทุนของระบบอัตโนมัติลดลง ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถนำเทคโนโลยีและโซลูชันมาใช้สร้างความได้เปรียบได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านความแม่นยำ ความสามารถในการผลิตซ้ำ ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการเพิ่มผลผลิต
3 : หุ่นยนต์
ในอุตสาหกรรมการผลิตมีการนำหุ่นยนต์มาใช้งานเพิ่มมากขึ้นมาหลายทศวรรษ โดยนำมาใช้เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและความแม่นยำในการผลิตที่มีกระบวนทำซ้ำ ๆ และไม่ต้องพึ่งพาแรงงานมนุษย์ และแนวโน้มนี้จะยังคงมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผู้ผลิตจะนำหุ่นยนต์ใหม่ ๆ มาใช้มากขึ้น อาทิ หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน (Cobots) และยานยนต์นำทางอัตโนมัติ (AGV) หรือหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) เพื่อเพิ่มความคล่องตัว ความยืดหยุ่น และมีคุณภาพพร้อมในตัวหุ่นยนต์เอง ซึ่งหุ่นยนต์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำงานร่วมกับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้คนมุ่งความสนใจไปที่งานสร้างสรรค์มากขึ้นเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ดังนั้นหุ่นยนต์อัจฉริยะจะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตมากขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามอง นอกจากนี้ การใช้หุ่นยนต์มากขึ้นจะเพิ่มโอกาสในการทำงานแบบรีโมท
4 : อาศัยห่วงโซ่อุปทานที่มาจากพื้นที่ใกล้เคียง
โลกเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)ในปี พ.ศ.2563 และ 2564 โดยผลกระทบจากห่วงโซ่อุปทานจะยังคงสร้างความยุ่งยากในอุตสาหกรรมการผลิตต่อไป และผู้ผลิตมักจะใช้ห่วงโซ่อุปทานท้องถิ่นเพื่อจัดการกับความท้าทายดังกล่าว แม้อาจทำให้ต้นทุนของผลิตภัณฑ์สูงขึ้น แต่ก็สามารถมองได้ว่าเป็นโอกาสในการเพิ่มความคล่องตัว สร้างความยืดหยุ่น และคุณภาพที่จะส่งผลให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจเพิ่มขึ้น ดังนั้นการรุกตลาดจึงเป็นแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปในปี พ.ศ.2565 โดยเป็นส่วนหนึ่งของนำกลยุทธ์ระดับโลกมาปรับใช้ในระดับท้องถิ่น แนวโน้มนี้จะช่วยเร่งแนวคิดของการผลิตแบบกระจายศูนย์หรือการผลิตในท้องถิ่นซึ่งเป็นแนวทางที่ยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางเพื่อตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น
5 : การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล
การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) เป็นเรื่องการปรับปรุงระบบดั้งเดิมให้มีความทันสมัย รวมถึงการดัดแปลงอุปกรณ์รุ่นเก่า และการใช้ประโยชน์จากพลังของเซนเซอร์ขั้นสูง จากเทคโนโลยีเสมือนจริงทั้ง VR และ AR และเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับปรุงคุณภาพ ประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างมูลค่ามากขึ้น และแข่งขันได้
ที่มา: engineeringtoday