#1 การผสมผสานระหว่างคลาวด์-เครือข่าย-อุปกรณ์ (Cloud-Network-Device Convergence)
#1 การผสมผสานระหว่างคลาวด์-เครือข่าย-อุปกรณ์ (Cloud-Network-Device Convergence)
การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีเครือข่ายใหม่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาของคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ไปสู่ระบบคอมพิวติ้งแบบใหม่ของการผสมผสานระหว่างคลาวด์-เครือข่าย-อุปกรณ์ (Cloud-Network-Device Convergence)
ในอีกสามปีข้างหน้า คาดว่าจะได้เห็นการนำ AI ไปใช้อย่างกว้างขวางในกระบวนการวิจัยของวิทยาศาสตร์ประยุกต์ รวมถึงจะมีการใช้ชิปซิลิคอนโฟโตนิกอย่างแพร่หลายในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Large-scale Data Center) อีกด้วย นอกจากนี้ AI จะช่วยรวมแหล่งพลังงานหมุนเวียนเข้ากับระบบไฟฟ้ากำลัง (Power Grid) ในอนาคต ส่วนยารักษาโรคก็จะแม่นยำและคำนึงถึงคนไข้เป็นหลักมากขึ้นจนกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ อีกทั้งยังมี AI ที่ปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลได้ ซึ่งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและความสามารถในการตีความ รวมไปถึงแว่นตา XR รุ่นใหม่อีกด้วย
#2 AI เพื่อวิทยาศาสตร์ (AI for Science)
AI จะถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในกระบวนการวิจัยของวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และจะใช้เป็นเครื่องมือในการผลิตวิทยาศาสตร์พื้นฐานอีกด้วย
#3 ชิปซิลิคอนโฟโตนิก (Silicon Photonic Chips)
จะมีการใช้ชิปซิลิคอนโฟโตนิกอย่างแพร่หลายในการส่งข้อมูลความเร็วสูงในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Large-scale Data Center)
#4 AI เพื่อพลังงานหมุนเวียน (AI for Renewable Energy)
AI จะช่วยรวมแหล่งพลังงานหมุนเวียนกับระบบไฟฟ้ากำลัง (Power Grid) เข้าด้วยกัน และทำให้การใช้ระบบไฟฟ้ากำลังมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้
#5 ยาที่มีความแม่นยำสูง (High-precision Medicine)
ยาที่มีความแม่นยำโดยคำนึงถึงคนไข้เป็นหลักจะกลายเป็นแนวโน้มที่สำคัญที่จะขยายขอบเขตของการดูแลสุขภาพ รวมถึงการป้องกันโรค การวินิจฉัย และการรักษาโรค