พลังงานชีวภาพจากสาหร่าย – Algae Power
หลายคนอาจจะแปลกใจว่าเราจะนำสาหร่ายมาสร้างพลังงานทดแทนได้จริงหรือ ต่อข้อสงสัยนี้ ได้รับการคลายความข้องใจแล้วโดยนักวิทยาศาสตร์หลายสำนัก ที่บอกตรงกันว่าได้ค้นพบน้ำมันในสาหร่ายในปริมาณมาก เราจึงสามารถนำสาหร่ายเหล่านี้มาดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพได้
นอกจากนั้น สาหร่ายยังสามารถเจริญเติบโตได้ดีถึงแม้จะเป็นน้ำเสียก็ตาม และสาหร่ายเองก็มีความสามารถในการช่วยบำบัดน้ำเสียอีกด้วย โดยสาหร่ายที่เพาะปลูกในพื้นที่ประมาณ 2.5 ไร่ จะให้ปริมาณน้ำมันมากถึงประมาณ 34,000 ลิตร ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทในต่างประเทศที่กำลังพัฒนาการใช้พลังงานน้ำมันชีวภาพจากสาหร่าย มาใช้ในรถยนต์ไฮบริดควบคู่กับแบตเตอรี่แล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น น้้ามันดิบที่สกัดได้จากสาหร่าย สามารถนำไปผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพได้เช่นเดียวกับน้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันจากพืชชนิดอื่นๆ โดยหลังจากผ่านกระบวนการสกัดน้ำมันจากสาหร่าย น้้ามันดิบที่ได้มาเมื่อน้ำไปผ่านกระบวนการทางเคมี สามารถผลิตได้เป็นน้้ามันไบโอดีเซล น้้ามันดีเซลชีวภาพสังเคราะห์ (BHD) หรือน้้ามันเครื่องบินชีวภาพ (Bio-jet) ได้ ส่วนกากสาหร่ายซึ่งเป็นผลพลอยได้จากขั้นตอนการสกัดน้ำมัน ก็สามารถน้าไปใช้เป็นวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ อาหารสัตว์ ปุ๋ย ยา เป็นต้น
หน่วยงานเอกชนในชื่อ UOP A Honeywell Company ได้ทำการศึกษาวิจัยน้ำมันที่ผลิตได้จากสาหร่าย โดยได้นำน้ำมันดิบที่ผลิตได้จากสาหร่าย (Crude Algal Oil) มาผ่านกระบวนการ Hydrogenation เพื่อให้ได้น้ำมันดีเซลชีวภาพสังเคราะห์ที่มีโครงสร้างเหมือนกับน้ำมันดีเซล
พลังงานจากกังหันลมแบบลอยบนอากาศ – Flying Wind Power
พลังงานจากกังหันลมแบบลอยบนอากาศ คือ พลังงานที่ได้จากลม โดยมีกังหันลมเป็นเครื่องจักรกลไว้รับพลังงานจลน์จากการเคลื่อนที่ของลมผ่านตัวกังหันเพื่อเปลี่ยนลมให้เป็นพลังงานกล จากนั้นเราก็สามารถนำพลังงานกลมาใช้ประโยชน์ได้
แต่พลังงานจากกังหันลมแบบลอยบนอากาศจะแตกต่างจากพลังงานจากกังหันลมทั่วไป คือ กังหันลมแบบลอยบนอากาศจะติดตั้งบนพื้นที่ หรือบริเวณในระดับความสูงเหนือพื้นดินประมาณ 1,000 – 2,000 ฟุต เพื่อรับแรงลมที่แรงกว่าแรงลมปกติ โดยแรงลมที่ความสูงเหนือพื้นดินประมาณ 1,000 – 2,000 ฟุต นี้จะได้รับลมที่มีความเร็วมากกว่าลมที่ติดตั้งแบบทาวเวอร์ประมาณห้าถึงแปดเท่า และกังหันลมแบบลอยบนอากาศสามารถผลิตพลังงานได้มากกว่ากังหันลมขนาดใกล้เคียงกันที่ตั้งแบบทาวเวอร์ถึง 2 เท่า
พลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งได้ทุกพื้นผิว – Embeddable Solar Power
พลังงานแสงอาทิตย์เป็นอีกหนึ่งพลังงานทดแทนที่มีความสำคัญ เนื่องจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานทดแทนที่โลกได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะกลายเป็นหนึ่งในพลังงานทดแทนหลักในอนาคต อีกทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ยังเป็นพลังงานสะอาด โดยปกติแล้วการจะแปรสภาพพลังงานจากแสงอาทิตย์จะทำได้โดยผ่านแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งเราจะต้องนำแผงโซลาร์เซลล์ติดตั้งหลังคาของบ้าน อาคาร และที่สูง เพื่อให้โซลาร์เซลล์ได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่
แต่ในปัจจุบันได้มีการนำแผงโซลาร์เซลล์มาประยุกต์กับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ยกตัวอย่าง เช่น หลอดไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เคสโทรศัพท์มือพลังงานแสงอาทิตย์ หรือแม้แต่ตุ๊กตาติดหน้ารถพลังงานแสงอาทิตย์ โดยของใช้เหล่านี้จะมีแผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กถูกติดตั้งมา และจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้รับผ่านแผงโซลาร์เซลล์เป็นพลังงานในการขับเคลื่อน หรือ หากเป็นเคสโทรศัพท์มือพลังงานแสงอาทิตย์
พลังงานที่ได้รับจากแผงโซลาร์เซลล์นั้นจะเปลี่ยนเป็นพลังงานสำหรับมือถือที่สวมใส่เคสพลังงานแสงอาทิตย์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เคสโทรศัพท์มือถือพลังงานแสงอาทิตย์จะกลายเป็นเหมือน Power Bank แบบไร้สายเพื่อประจุไฟเข้าโทรศัพท์มือถือนั่นเอง
ในอนาคตเหล่านักวิจัย และผู้พัฒนาได้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีการพัฒนาทางเทคโนโลยีเพื่อทำให้เราสามารถเคลือบ หรือ ฝังโซลาร์เซลล์ลงบนพื้นผิวของวัตถุต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ด้านนอกอาคาร หลังคาบ้าน หลังคารถ หน้าต่าง และกระจกของอาคารต่างๆ เรือใบ เต็นท์ บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น หน้าจอ
คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือแม้แต่บนเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ทุกวัน โดยที่ทางผู้พัฒนาคาดหวังว่าการพัฒนานี้จะช่วยให้การติดตั้งโซลาร์เซลล์ง่ายขึ้น โดยสามารถติดตามสถานที่ วัตถุ หรือ พื้นผิวต่างๆ ที่หลากหลายขึ้น และมีราคาที่ถูกลง เพื่อให้การใช้โซลาร์เซลล์กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในอนาคต
พลังงานฟิวชั่น – Fusion Power
พลังงานฟิวชั่น คือ พลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น พูดง่ายๆ พลังงานฟิวชั่นก็คือพลังงานนิวเคลียร์ชนิดหนึ่งนั่นเอง แต่พลังงานชนิดนี้เป็นพลังงานสะอาด แตกต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ทั่วไป
โดยพลังงานฟิวชั่นเป็นการรวมตัวของพลังงาน คือ ธาตุเบารวมตัวกันเป็นธาตุหนัก เช่น ไฮโดรเจน รวมกันเป็น ฮีเลียม แล้วปล่อยพลังงานออกมา และเรานำพลังงานที่อยู่ในใจกลางอะตอม (Nucleus) มาใช้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าพลังงานฟิวชั่นจะไม่มีการปล่อยสารกัมมันตรังสี และมีขั้นตอนในการทำปฏิกิริยาที่ต่างกับพลังงานนิวเคลียร์แบบปกติ แต่มีแหล่งต้นกำเนิดพลังงานจากนิวเคลียสเหมือนกัน
ในปัจจุบันประเทศฝรั่งเศสได้สร้างเครื่องปฏิกรณ์ทดลองความร้อนระหว่างประเทศ (ITER) ซึ่งจะกลายเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานฟิวชั่นเชิงพาณิชย์ แห่งแรกของโลก โดยประเทศฝรั่งเศสได้รับทุนจาก 7 ประเทศในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ทดลองความร้อนนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในปี 2027
พลังงานจากร่างกายมนุษย์ – Human Power
พลังงานจากร่างกายมนุษย์กลายมาเป็นอีกหนึ่งพลังงานทดแทนที่น่าสนใจในโลกอนาคต เนื่องจากมนุษย์สามารถสร้างพลังงานผ่านการเคลื่อนไหวต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งก็นับเป็นอีกหนึ่งพลังงานทดแทนหมุนเวียนที่ค่อนข้างน่าสนใจ และจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตทีเดียว
เนื่องจากมนุษย์เราต้องเคลื่อนไหวร่างกายทุกวัน นั่นหมายถึงมนุษย์เราสามารถสร้างพลังงานได้ทุกวันด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายนั่นเอง โดยในอนาคตมนุษย์เราอาจกลายเป็นแหล่งพลังงานสำคัญสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่เราพกติดตัว ซึ่งหากเราสามารถสร้างพลังงานทดแทนจากมนุษย์ได้จริง ก็จะทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายมากขึ้น
เช่น การพกแบตเตอรี่สำรองสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์แบบ Laptop ขนาดเล็ก เนื่องจากเราสามารถสร้างพลังงานได้เอง มนุษย์สามารถสร้างพลังงานได้เฉลี่ย 100 วัตต์ ต่อ วัน หรือ อาจสร้างกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 300-400 วัตต์ ต่อ วัน
สำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง หรือ มีการเคลื่อนไหวมาก เช่น นักกีฬา ในขณะที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ ใช้กำลังไฟฟ้าเพียง 2 วัตต์เท่านั้น จึงเรียกได้ว่าพลังงานจากร่างกายมนุษย์นั้นจะมากพอที่จะเป็นพลังงานทดแทนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กแน่นอน
ที่มา: salika